ใบกํากับภาษีคืออะไร อัพเดท 2025 │ ออกใบกำกับภาษี ฟรี 100%

ใบกํากับภาษีคืออะไร แบบกระชับ (เผื่อคุณไม่มีเวลาอ่าน)

1. ใบกำกับภาษีคือ เอกสารหลักฐานสำคัญทางกฎหมาย ที่ผู้ประกอบการซึ่งได้ทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ต้องจัดทำและออกให้ผู้ซื้อหรือผู้รับบริการทุกครั้งที่มีการซื้อขายเกิดขึ้น
2. ยิ่งมีเยอะ ก็สามารถใช้ลดภาษี VAT ได้เยอะ
3. มี 2 รูปแบบ: ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ใบกำกับภาษีอย่างย่อ
4. การไม่ออกใบกำกับภาษี หรือออกโดยมีข้อมูลไม่ครบถ้วน ถือเป็นความผิดทางกฎหมายที่มีโทษทั้งปรับและจำคุก

ใบกํากับภาษีคืออะไร (Tax invoice) และมีไว้เพื่ออะไร?

ใบกํากับภาษีคืออะไร? อธิบายแบบง่ายที่สุด คือ “เอกสารหลักฐานสำคัญทางกฎหมาย” ที่ใช้ในการคำนวณและควบคุมการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

กฎหมายกำหนดให้ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการที่จดทะเบียน VAT จะต้องจัดทำและออกใบกำกับภาษีให้กับผู้ซื้อหรือผู้รับบริการ ทุกครั้ง ที่เกิดการซื้อขายนั้นขึ้น

ใบกำกับภาษีทำหน้าที่ 2 อย่างหลัก คือ:

• สำหรับผู้ขาย: เป็นหลักฐานในการ เรียกเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีขาย) เพื่อนำส่งให้กับกรมสรรพากร
• สำหรับผู้ซื้อ: เป็นหลักฐานในการ ขอคืน หรือ นำไปหัก ภาษีซื้อที่ตนเองได้จ่ายไปแล้ว (การเครดิตภาษี)

เราขอใบกำกับภาษีทำไม มีประโยชน์ยังไง?

ผู้ซื้อที่เป็นนิติบุคคลหรือผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขอใบกำกับภาษี เต็มรูป เพราะหากไม่มีเอกสารนี้ ภาษีซื้อที่จ่ายไปนั้นอาจกลายเป็น “ภาษีซื้อต้องห้าม” ซึ่งคุณจะไม่สามารถนำภาษีส่วนนี้ไปหักออกจากภาษีขายได้ ทำให้ต้นทุนทางภาษีของกิจการสูงขึ้นทันที พูดง่ายๆ ก็คือ ยื่งมีใบกำกับภาษีเยอะ

ไขความสับสน: ใบกํากับภาษีคืออะไร ใบเสร็จ และ VAT แตกต่างกันอย่างไร

เอกสาร	Tax Invoice กับ Invoice ต่างกันอย่างไร?	ใบกํากับภาษี คือใบเสร็จไหม?
Invoice (ใบแจ้งหนี้)	เป็นเพียงเอกสารทางการค้าที่แจ้ง “ยอดที่ต้องชำระ” หรือรายการสินค้า/บริการ ไม่ใช่เอกสารทางภาษี	ไม่ใช่ หน้าที่หลักคือการแจ้งหนี้
ใบเสร็จรับเงิน (Receipt)	เป็นเอกสารยืนยันว่า “มีการรับชำระเงินแล้ว” (Proof of Payment) ใช้ยืนยันการรับเงินในทางบัญชี แต่ไม่ใช่เอกสารที่ใช้ในระบบ VAT	ใช่ หน้าที่หลักคือการยืนยันการชำระเงิน
ใบกํากับภาษี (Tax Invoice)	เป็นเอกสาร “หลักฐานทางภาษี” ที่ยืนยันว่ามีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม	อาจเป็นได้ หากเอกสารนั้นรวมข้อความสำคัญของใบเสร็จรับเงินไว้ด้วย และมีการรับชำระเงินเกิดขึ้น

ใบกํากับภาษีกับ VAT ต่างกันอย่างไร

VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม): คือ “ระบบภาษี” ที่กำหนดให้ผู้ขายเก็บภาษีจากผู้ซื้อในอัตราร้อยละ 7
ใบกำกับภาษี: คือ “เอกสาร” ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการและพิสูจน์การเกิดภาษี VAT นั้นๆ

ใครมีหน้าที่ออกใบกํากับภาษี และต้องออกให้ใคร (เกณฑ์รายรับ 1.8 ล้านบาท)

ใครต้องจดทะเบียน VAT และออกใบกำกับภาษี?

ผู้ประกอบการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเป็นปกติ และมีรายรับเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี มีหน้าที่ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีรายรับเกินเกณฑ์นั้น

วิธีการออกใบกํากับภาษีมีอะไรบ้าง (Tax Invoice ออกตอนไหน)

กฎหมายกำหนด “จุดที่ต้องออก” ใบกำกับภาษีไว้ชัดเจน โดยต้องจัดทำและส่งมอบ ในทันที ที่เกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งขึ้นก่อน:

1. กรณีขายสินค้า: เมื่อมีการส่งมอบสินค้า หรือโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้า หรือเมื่อได้รับชำระราคาสินค้า
2. กรณีให้บริการ: เมื่อได้รับชำระค่าบริการ หรือเมื่อได้มีการใช้บริการนั้น

บิลเงินสดใช้แทนใบกำกับภาษีได้ไหม

ไม่ได้ บิลเงินสดใช้เป็นหลักฐานรายจ่ายทางบัญชีได้ แต่ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการเครดิตภาษีซื้อ (Input Tax) ในระบบ VAT ได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากไม่มีรายการสำคัญทางภาษีตามที่กฎหมายกำหนด

ใบเสร็จรับเงินใช้แทนใบกำกับภาษีได้ไหม

ใบเสร็จรับเงิน ที่มีหัวกระดาษว่า “ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี” สามารถใช้เป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษี (ลดหย่อนภาษี) ได้ สำหรับธุรกิจที่จดทะเบียน VAT ต้องออกใบกำกับภาษีที่ระบุ VAT แยกต่างหาก หรือรวมอยู่ในเอกสารเดียวกันที่มีข้อมูลครบถ้วนตามกฎหมาย

ประเภทใบกํากับภาษี: เต็มรูป อย่างย่อ และ E-Tax ต่างกันอย่างไร

ใบกํากับภาษีแบบเต็มรูป (Full Tax Invoice)

ใบกํากับภาษีแบบเต็มรูป เป็นใบกำกับภาษีมาตรฐานที่ใช้สำหรับการซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) ซึ่งผู้ซื้อสามารถนำภาษีซื้อไปเครดิตภาษีขายได้ ผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยทั่วไป มีหน้าที่ต้องออกใบกำกับภาษีประเภทนี้

 ใบกํากับภาษีอย่างย่อ (Abbreviated Tax Invoice)

ใช้สำหรับการประกอบกิจการ ค้าปลีก หรือให้บริการรายย่อยแก่บุคคลจำนวนมากเท่านั้น เช่น ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน โรงภาพยนตร์ หรือภัตตาคาร

• ข้อแตกต่างสำคัญ: ใบกำกับภาษีอย่างย่อไม่ต้องแสดงชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อ
• ภาษีซื้อต้องห้าม: ภาษีซื้อที่ระบุในใบกำกับภาษีอย่างย่อไม่สามารถนำไปใช้ในการเครดิตภาษีได้ ดังนั้นหากผู้ซื้อเป็นนิติบุคคลและต้องการเครดิตภาษี ต้องเรียกร้องให้ผู้ขายออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแทน

ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)

ใบกำกับภาษี กับ E-tax เหมือนกันไหม?
e-Tax Invoice คือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่ถูกจัดทำและนำส่งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผลบังคับทางกฎหมายเท่ากับเอกสารกระดาษทุกประการ รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมระบบนี้ (National e-Payment) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรม และช่วยลดภาระการจัดทำรายงานภาษีซื้อ-ขายของผู้ประกอบการในอนาคต

รายการสำคัญ 7 ข้อ: ใบกํากับภาษีเต็มรูป ต้องมีอะไรบ้างให้ถูกต้องตามกฎหมาย?

การออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปต้องระบุรายการที่จำเป็นอย่างน้อย 7 รายการอย่างครบถ้วน:

1. ข้อมูลผู้ออก: ชื่อนิติบุคคล (ชื่อเต็ม ห้ามย่อ), ที่อยู่, และ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก ของผู้ประกอบการที่ออกใบกำกับภาษี
2. คำว่า “ใบกํากับภาษี”: ต้องปรากฏในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
3. ข้อมูลผู้ซื้อ: ชื่อนิติบุคคล (ชื่อเต็ม ห้ามย่อ), ที่อยู่, และ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลัก ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2558)
   *หมายเหตุ: ต้องระบุ Tax ID 13 หลักของผู้ซื้อ เฉพาะกรณีที่ผู้ซื้อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT เท่านั้น
4. หมายเลขลำดับของใบกํากับภาษี และหมายเลขของเล่ม (ถ้ามี)
5. ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
6. จํานวนภาษีมูลค่าเพิ่ม: ต้องคำนวณจากมูลค่าสินค้า/บริการ และ แยกออกจากมูลค่าสินค้าให้ชัดเจน
7. วัน เดือน ปี ที่ออกใบกํากับภาษี

ใบกํากับภาษีต้องประทับตราบริษัทไหม

กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ “ต้อง” ประทับตราบริษัท แต่กำหนดให้ต้องมีรายการสำคัญ 7 ข้อข้างต้นครบถ้วน การประทับตราบริษัทเป็นเพียงการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเอกสารเท่านั้น

ข้อควรระวังเรื่องการแก้ไขเอกสาร

รายการในใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจะต้องไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นการขีด ฆ่า ขูด ลบ หรือใช้ยาหมึก หากมีการแก้ไข ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าวถือเป็นภาษีซื้อต้องห้ามทันที

ใบกำกับภาษีที่ออกให้บุคคลธรรมดาต้องระบุอะไรบ้าง

สำหรับผู้ซื้อที่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT (บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่รายได้ไม่ถึงเกณฑ์) การขอใบกำกับภาษีเต็มรูปเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการหักรายจ่ายตามจริง:

• ไม่ต้องระบุ Tax ID 13 หลัก: ใบกำกับภาษีที่ออกให้บุคคลธรรมดา ไม่ต้องแสดง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 13 หลักของผู้ซื้อ
• รายการที่จำเป็น: เพียงแค่ระบุ ชื่อ และ ที่อยู่ ของผู้ซื้อก็เพียงพอ เพื่อให้สามารถใช้เป็นเอกสารยืนยันรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับกิจการในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลได้ (ถึงแม้จะไม่สามารถนำภาษีซื้อไปเครดิตได้ก็ตาม)

ใบกำกับภาษีสูญหาย หรือถูกทำลาย ต้องดำเนินการอย่างไร?

หากใบกำกับภาษีฉบับจริงสูญหายหรือถูกทำลาย ผู้ประกอบการมีหน้าที่ดำเนินการดังนี้:

1. แจ้งความ: ผู้ซื้อต้องไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ทราบว่าเอกสารสูญหาย
2. ขอใบแทน: นำสำเนาบันทึกประจำวันไปยื่นเรื่องขอให้ผู้ขายออก ใบแทนใบกำกับภาษี (Replacement Tax Invoice) ให้
3. การรับรอง: ใบแทนที่ออกใหม่จะต้องมีข้อความว่า “ใบแทน” ปรากฏในเอกสารอย่างชัดเจน และมีข้อความว่า “ได้ออกใบแทนให้ครั้งที่…” กำกับไว้ด้วย จึงจะสามารถนำไปใช้เครดิตภาษีซื้อได้ตามกฎหมาย

ข้อกำหนดเรื่องสกุลเงินในใบกำกับภาษี

แม้ว่าการซื้อขายสินค้าหรือบริการจะตกลงกันด้วยสกุลเงินต่างประเทศ แต่กฎหมายกำหนดให้รายการสำคัญในใบกำกับภาษีเต็มรูปจะต้องแสดงเป็น เงินตราไทย (บาท) เสมอ โดย:

• การแสดงมูลค่า: ผู้ขายต้องระบุ มูลค่าของสินค้าหรือบริการ และ จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่คิดเป็น สกุลเงินบาท ไว้ในใบกำกับภาษีให้ชัดเจน
• อัตราแลกเปลี่ยน: ในกรณีที่มีการรับชำระเป็นเงินตราต่างประเทศ ให้นำมาคำนวณเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยกรมสรรพากร (ปกติคือ อัตราถัวเฉลี่ยที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อ ณ วันที่เกิดภาระภาษี)

ใบกํากับภาษีไม่มีคําว่าต้นฉบับใช้ได้ไหม

การระบุว่า “ใบกำกับภาษี” นั้นเป็น “ต้นฉบับ” หรือไม่ ไม่ได้เป็นรายการที่กฎหมายกำหนดให้มี ในใบกำกับภาษีทั่วไป ดังนั้น ใบกำกับภาษีที่ไม่มีคำว่า “ต้นฉบับ” สามารถนำไปใช้ได้ หากเอกสารนั้นมีรายการสำคัญครบถ้วนตามกฎหมาย 7 ข้อ อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ ใบกำกับภาษีที่ออกเป็นชุด (มีหลายฉบับในแผ่นเดียว) จำเป็นต้องระบุคำว่า “ต้นฉบับ” บนฉบับที่ส่งมอบให้ผู้ซื้อเพื่อใช้เครดิตภาษี และระบุคำว่า “สำเนา” บนฉบับที่ผู้ขายเก็บไว้ การระบุให้ชัดเจนจึงเป็น แนวทางปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุด เพื่อยืนยันสถานะของเอกสารและป้องกันปัญหาในการตรวจสอบกับกรมสรรพากร

ใบกํากับภาษีต้นฉบับใครเก็บ

ตามหลักกฎหมายและทางปฏิบัติในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ใบกำกับภาษีฉบับต้นฉบับ จะต้องถูกเก็บไว้ที่ ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ (Buyer) เนื่องจากใบกำกับภาษีต้นฉบับคือหลักฐานสำคัญทางกฎหมายเพียงฉบับเดียวที่ผู้ซื้อสามารถนำไปใช้ในการ ขอคืน หรือ นำไปหัก (เครดิต) ภาษีซื้อที่ตนเองได้จ่ายไปแล้วในแต่ละรอบภาษี ส่วน ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ (Seller) มีหน้าที่เก็บ สำเนาใบกำกับภาษี ไว้เป็นหลักฐานในการนำส่งภาษีขายและใช้สำหรับการตรวจสอบของกรมสรรพากร

ใบกำกับภาษี ไม่มีลายเซ็นได้ไหม

ตามกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่ม ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปไม่จำเป็นต้องมีลายเซ็น ของผู้ประกอบการที่ออกเอกสาร เนื่องจากลายเซ็นไม่ได้เป็นหนึ่งในรายการสำคัญ 7 ข้อที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมี อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ ผู้ประกอบการจำนวนมากยังคงประทับตราบริษัทและลงลายเซ็นไว้เพื่อ เพิ่มความน่าเชื่อถือ และยืนยันความถูกต้องของเอกสาร โดยเฉพาะใบกำกับภาษีที่เป็นแบบกระดาษหรือไม่ได้ออกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ที่มีการยืนยันตัวตนทางดิจิทัลอยู่แล้ว

ใบกำกับภาษีไม่มีคำว่า สำนักงานใหญ่ ได้ไหม

ใบกำกับภาษีไม่จำเป็นต้องมีคำว่า “สำนักงานใหญ่” อย่างชัดเจนบนเอกสาร สิ่งสำคัญคือต้องระบุที่อยู่ของสถานประกอบการตามที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ให้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งกรมสรรพากรยอมรับการใช้คำย่อ เช่น “สนญ.”, “HO”, “HQ” หรือรหัสตัวเลข “00000” แทนคำว่า “สำนักงานใหญ่” ได้

ใบกํากับภาษีห้ามขีดเขียนหรือไม่

ใบกำกับภาษีห้ามมีการขีดฆ่า ขูด ลบ หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการที่เป็นสาระสำคัญ โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี หรือจำนวนเงิน/VAT หากมีการแก้ไขในรายการสำคัญเหล่านี้ จะทำให้ใบกำกับภาษีฉบับนั้น กลายเป็นภาษีซื้อต้องห้ามทันที ซึ่งผู้ซื้อจะไม่สามารถนำภาษีซื้อดังกล่าวไปใช้เครดิตได้ ดังนั้น หากพบข้อผิดพลาด ผู้ขายจะต้องดำเนินการ ยกเลิกใบกำกับภาษีฉบับเดิม และ ออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ ที่ถูกต้องแทนเท่านั้น

ไม่ออกใบกำกับภาษี หรือออกใบกำกับภาษีปลอม…ผลที่ตามมาคืออะไร

การฝ่าฝืนข้อกำหนดเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีมีบทลงโทษที่รุนแรงมากทั้งโทษปรับและโทษทางอาญา:

การกระทำ	บทลงโทษ (ตามที่กำหนดในแหล่งข้อมูล)
ไม่จัดทำ/ไม่ส่งมอบใบกำกับภาษี	โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องเสียเบี้ยปรับอีก 2 เท่า ของภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษี
ออกใบกำกับภาษีที่มีรายการไม่ครบถ้วน (สาระสำคัญ)	ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ไม่ออกใบกำกับภาษี โดยเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี	โทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท พร้อมเสียเบี้ยปรับอีก 2 เท่า ของภาษีมูลค่าเพิ่ม
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าออกใบกำกับภาษีปลอม หรือไม่มีสิทธิออก	ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท พร้อมเสียเบี้ยปรับอีก 2 เท่า ของ VAT ที่ระบุในเอกสาร

เครื่องมือออกใบกำกับภาษีฟรี 100% ไม่ต้องล็อคอิน

หากตอนนี้คุณรู้แล้วว่าใบกำกับภาษีคืออะไร เราขอแนะนำเครื่องมือออกใบกำกับภาษีฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีการเก็บข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น

คำถามที่พบบ่อย

สรุป: ใบกำกับภาษีคืออะไร

ใบกำกับภาษีคือหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้กิจการของคุณสามารถจัดการภาษีมูลค่าเพิ่มได้อย่างถูกต้อง หากคุณเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT การออกใบกำกับภาษีทุกครั้งอย่างครบถ้วน และการเก็บรักษาสำเนาไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีคือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงบทลงโทษทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กรมสรรพากรมีอำนาจในการขอขยายระยะเวลาการตรวจสอบได้สูงสุดถึง 7 ปี ดังนั้นการเก็บรักษาไว้ 7 ปีจึงเป็นการปฏิบัติที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับธุรกิจ

Simple Balance พร้อมสนับสนุนงานบัญชีและภาษีของท่าน ทั่วประเทศ
สำหรับท่านที่กำลังมองหาบริการปิดงบ เรามีบริการรับปิดงบเปล่าราคาถูก ห้างหุ้นส่วนที่ไม่มีรายได้เริ่มต้นที่ 7,000 บาทต่อปี และบริษัทจำกัดเริ่มต้นที่ 9,000 บาทต่อปี เราพร้อมดูแลให้บัญชีของท่านสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันแรก